ปัจจุบันเราจะเห็นว่าหลายคนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันเป็นจำนวนมากขึ้น เนื่องจากมองว่าสะดวกต่อการใช้งาน ทั้งยังสามารถพกพาได้สะดวกอีกด้วย ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันนั้นก็จะมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกมากมาย แต่คนจำนวนไม่น้อยเลือกสูบบุหรี่ไฟฟ้า KS Quik เพราะมีดีกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดาทั่วไป ดังนี้
1. สามารถเลือกระดับนิโคตินจากน้ำยาได้
คุณสามารถเลือกระดับนิโคตินตามความต้องการได้เลย ทั้งยังสามารถเลือกกลิ่น รสชาติ ได้เองอีกด้วย โดยระดับนิโคตินนั้นก็จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 ระดับด้วยกัน ซึ่งในแต่ละระดับก็จะมีความแตกต่างกันออกไป เพราะคุณสามารถเลือกออปชั่นเพิ่มได้ ไม่ว่าจะเป็นความหวาน ความเย็น เพื่อรสชาติที่ถูกคอนั่นเอง ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า KS Quik ก็มีให้เลือกเยอะมาก อยากสูบแบบไหนก็ตามความชอบได้เลย
2. ไม่มีสารก่อมะเร็ง
บุหรี่ไฟฟ้า KS Quik จะไม่มีสารก่อมะเร็งที่ชื่อว่า ทาร์ หรือที่เรียกว่า น้ำมันดิน ซึ่งเป็นสารเหนียว ๆ ในบุหรี่ โดยสารตัวนี้จะก่อให้เกิดคราบบนฟันและยังลดปริมาณน้ำลายในปากอีกด้วย ไม่เพียงแค่นี้ยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบอีกด้วยหรือโรคเหงือกอักเสบได้ด้วยเช่นกัน
3. บุหรี่ไฟฟ้ามีหลายรสชาติหลายกลิ่นและหลายประเภทให้เลือก
คุณสามารถเลือกออปชั่นของบุหรี่ไฟฟ้า KS Quik ได้ตามความต้องการของตนเองได้เลย ไม่ว่าจะเป็นขนาดพกพาเนื่องจากมีหลายขนาดให้เลือก เพราะแบตเตอรี่ของบุหรี่ไฟฟ้าแต่ละรูปแบบหรือแต่ละประเภทนั้นจะมีความแตกต่างกัน ทั้งนี้ยังมีโหมดการใช้งานหรือระบบการทำงานของบุหรี่ที่แตกต่างกันอีกด้วย
4. สูบง่ายเหมาะกับผู้เริ่มต้นสูบบุหรี่
สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นสูบบุหรี่ครั้งแรก บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นตัวเลือกที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติของการสูบบุหรี่ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ดีอย่างแน่นอน จึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลยที่หลายคนจะเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าบุหรี่ทั่วไป เพราะสะดวก ใช้ง่าย ได้รสชาติที่ตอบโจทย์กว่านั่นเอง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อดีของการบุหรี่ไฟฟ้าที่สายสูบมองว่ามีดีกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดาทั่วไป ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาบุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้งที่ตอบโจทย์ความต้องการ ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเสียเวลาเติมน้ำยา ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จแบต บุหรี่ไฟฟ้า KS Quik ตอบโจทย์ความต้องการและไม่ทำให้นักสูบอย่างคุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามบุหรี่ไฟฟ้าก็มีอันตรายต่อสุขภาพเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วจึงควรใช้อย่างระมัดระวัง และใช้ในปริมาณที่พอดี เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากจนเกินไปนั่นเอง